นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ดูโอ การบัญชีและบริการ จำกัด

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ดูโอ การบัญชีและบริการ จำกัด

บริษัท ดูโอ การบัญชีและบริการ จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงได้จัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ โดยขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ประกาศ”) ฉบับนี้ เนื่องจากเป็นการแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของท่าน ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

1. ประกาศนี้ใช้กับบุคคลดังต่อไปนี้

  • ลูกค้า/ผู้ใช้บริการของบริษัทซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
  • ผู้ประกอบการ ร้านค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ คู่สัญญาของบริษัท ที่เป็นบุคคลธรรมดา
  • บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับลูกค้า/ผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการ ร้านค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ ที่เป็นนิติบุคคล เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจกระทำการแทน ผู้ประสานงาน ผู้ติดต่อ พนักงาน หรือบุคคลใดที่ได้รับมอบหมาย
  • บุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่ลูกค้า/ผู้ใช้บริการสินค้าหรือบริการของบริษัท แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท หรือเข้าใช้บริการที่สำนักงาน สาขาหรือสำนักงานบริการของบริษัท
  • บุคคลธรรมดาที่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม หรือเปิดเผย จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตบริการที่ท่านใช้หรือความสนใจในบริการหรือสินค้าของท่าน หรือกิจกรรมความสัมพันธ์ของท่านที่มีอยู่กับบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ ภาพถ่าย ภาพและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง
  • ข้อมูลการติดต่อ ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลที่ใช้เพื่อระบบรักษาความปลอดภัย
  • ข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนาการให้บริการ และ รวมถึงในกรณีที่ลูกค้าเกิดปัญหาการใช้งาน ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงข้อมูลเพื่อการตรวจสอบและใช้ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องในกรณีที่มีการกระทำผิดเงื่อนไขการใช้บริการ หรือผิดกฎหมายใดๆ

3. ฐานทางกฎหมาย

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลข้างต้น โดยฐานทางกฎหมายที่บริษัทใช้เป็นหลัก ได้แก่ เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการหรือดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้


4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลข้างต้น โดยฐานทางกฎหมายที่บริษัทใช้เป็นหลัก ได้แก่ เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการหรือดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้

4.1 การเก็บข้อมูลโดยตรงจากท่าน

  • ขั้นตอนการยื่นคำขอ การสมัคร การเข้าทำสัญญาการใช้บริการต่างๆ กับบริษัท
  • ข้อมูลที่ได้รับจากการทำแบบสอบถามของท่าน การรับส่งข้อความทางอีเมล หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับบริษัท ผ่านพนักงาน หรือผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์ ของบริษัท เป็นต้น
  • ข้อมูลที่ท่านได้ให้กับบริษัทก่อนหรือในขณะที่ท่านจะเข้าเป็นคู่ค้า พันธมิตร คู่สัญญากับบริษัท

4.2 บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง ซึ่งแหล่งข้อมูลดังกล่าวมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจและผู้รับจ้างช่วงที่บริษัทไว้วางใจให้ดำเนินการสมัครบริการและให้บริการแก่ท่าน

5. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผย

  • เพื่อให้บริการตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
  • เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงระบบ การให้บริการให้มีประสิทธิภาพ
  • เพื่ออำนวยความสะดวกในการแจ้งหรือการติดตาม ทวงถาม การชำระค่าบริการ ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ เช่น การส่งหนังสือแจ้งค่าบริการ ใบสั่งซื้อสินค้าและบริการ การแจ้งเตือนให้ชำระค่าสินค้าและบริการ จัดทำใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี
  • เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อส่งให้หน่วยงานที่ต้องการตรวจสอบการบริหารจัดการข้อมูลทั้งภายนอกและภายใน เพื่อป้องกันการทุจริต
  • เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลในการให้บริการ การวางแผนการตลาด กิจกรรมทางการตลาดของบริษัท
  • เพื่อแจ้งและนำเสนอ สิทธิประโยชน์ ข้อมูล ข่าวสาร รายการส่งเสริมการขาย และข้อเสนอต่างๆ เกี่ยวกับการสมัคร การซื้อขายสินค้า หรือการใช้บริการต่างๆ ของบริษัทผ่านทางอีเมล ข้อความสั้น (Short Message: SMS) แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ เป็นต้น
  • เพื่อการสมัคร หรือเปิดใช้บริการ การสั่งซื้อสินค้า การขายสินค้า บริการด้านการชำระเงินและการทำธุรกรรมทางออนไลน์หรือการใช้บริการต่างๆ ของบริษัท รวมถึงนิติบุคคลหรือกลุ่มพันธมิตรที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย
  • เพื่อความปลอดภัยหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของบุคคล
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อให้บริการหลังการขาย หรือบริการตามที่ท่านร้องขอ สนับสนุนการใช้งาน ให้ข้อมูล ตอบรับ และแก้ไขข้อร้องเรียนต่างๆ
  • เพื่อสอบถาม ประเมิน ความเข้าใจ ความต้องการและความพึงพอใจของท่าน
  • เพื่อการแจ้งข้อมูล ข่าวสาร ให้แก่หน่วยงานกำกับดูแลและภาครัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย
  • เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและเครือข่ายการให้บริการของบริษัท
  • เพื่อการรักษาความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรมของสถานประกอบการและสาขาของบริษัท เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น

บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท (“บุคคลอื่น”) เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลอื่น เช่น

  • ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง เช่น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นต้น
  • ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน เช่น ธนาคาร บริษัทรับชำระเงินแทน
  • ผู้ประมวลผลข้อมูล
  • ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี และจัดทำโปรแกรมหรือระบบไอทีต่าง ๆ
  • ที่ปรึกษาวิชาชีพ
  • หน่วยงานที่ต้องการตรวจสอบการบริหารจัดการข้อมูลทั้งภายนอกและภายใน เพื่อป้องกันการทุจริต
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานที่มีอำนาจควบคุมและกำกับดูแลตามกฎหมาย
  • หน่วยงานอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย เช่น หน่วยงานที่ปฏิบัติตามคำสั่งทางกฎหมาย หน่วยงานตรวจสอบ หรือกระบวนการทางกฎหมาย / การฟ้องร้อง
  • บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

7.1 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริการแต่ละประเภท ตามระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายที่บังคับใช้ระหว่างท่านและบริษัท เว้นแต่เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัท หรือเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในการปฏิบัติงานภายในของบริษัท หรือเพื่อดำเนินการตามข้อเรียกร้องทางกฎหมายหรือกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลร้องขอ ซึ่งข้อมูลจะถูกจัดเก็บรักษาไว้ต่อไปตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท


7.2 บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามมาตรฐานการทำลายข้อมูลของบริษัท เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว

8. การขอความยินยอม

บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่าน ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อการใช้หรือให้บริการของบริษัท เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ (Biometric) ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
  • เพื่อการวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติรวมถึงการพัฒนาปรับปรุงบริการหรือสินค้าของบริษัท ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
  • การดำเนินการทางการตลาด การนำส่งข้อเสนอสินค้าและบริการ ข่าวสาร คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ การออก กลยุทธ์ทางการตลาด การเสนอสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัท พันธมิตรทางธุรกิจหรือนิติบุคคลอื่นที่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัทในการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

9. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอใช้สิทธิของท่านภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต โดยสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทหรือขอใช้สิทธิด้วยตัวท่านเอง ตามช่องทางที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อยื่นคำร้องโดยบริษัทจะขอให้ท่านแสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าท่านเป็นเจ้าของข้อมูลจริง


บริษัทอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามแต่กรณีหากพบว่าคำขอของท่านไม่มีมูล ซ้ำซาก หรือมีจำนวนมากเกินจำเป็น และบริษัทอาจปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิที่ไม่สุจริต/ไม่สมเหตุสมผล/ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง หรืออาจปฏิเสธคำร้องขอของท่านตามหลักเกณฑ์อื่นใดที่กฎหมายกำหนด


ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด


9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม


เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะแล้ว ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา สอบถามถึงผลกระทบก่อนการดำเนินการใช้สิทธิดังกล่าว หากการถอนความยินยอมของท่านทำให้บริษัทไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางอย่างให้แก่ท่านได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว


9.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลและขอรับสำเนา


ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น สำเนาใบแจ้งหนี้ สำเนาใบเสร็จ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทกำหนด ณ สำนักงานได้ตลอดเวลา หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น


9.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล


ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ หรือโดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย


9.4 สิทธิขอคัดค้าน


ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ อย่างไรก็ดี หากท่านยื่นคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยเป็นไปเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือเพื่อภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ บริษัทอาจจะยังคงการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยต่อไป หากบริษัทแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้ง สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น


9.5 สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูล


ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอใช้สิทธิให้บริษัทระงับการใช้แทน


9.6 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล


ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาสำหรับการให้บริการหรือมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน


9.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล


ท่านมีสิทธิขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ และทำให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย


9.8 สิทธิในการร้องเรียน


ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยท่านสามารถแจ้งมาที่ช่องทางการติดต่อของบริษัท เพื่อได้รับการตรวจสอบชี้แจงหรือแก้ไขข้อกังวลต่างๆ จากบริษัทก่อน หรือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในการกำกับดูแลตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


10. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและคุณภาพของข้อมูล

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท


ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมา เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของท่านได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

11. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

ในระหว่างการใช้บริการ บริษัทอาจส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ผู้โฆษณา และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ท่านอาจมีความสนใจ โดยท่านสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด


12. ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท หากท่านประสงค์ที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริษัท อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้ในกรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการปฏิบัติตามกฎหมาย


หากท่านไม่ยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านยังคงสามารถใช้บริการของบริษัทได้ ซึ่งอาจทำให้ท่านได้รับความสะดวกจากการใช้บริการน้อยลง เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อย่างเต็มประสิทธิภาพ


13. การดำเนินการ แนวปฏิบัติ และนโยบายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีนโยบายปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงออกมาตรการคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้บริการ


14. การทบทวนแนวนโยบายและแนวปฏิบัติ

บริษัทอาจพิจารณาทบทวนปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พุทธศักราช 2562 และประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ตลอดจน การให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบก่อนจะเริ่มดำเนินการ

15. ช่องทางการติดต่อบริษัทในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายนี้ รวมทั้งช่องทางการยื่นคำร้องการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แก่

ผู้ติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อีเมล์ dpo@duothailand.com

โทรศัพท์ 02-125-7615

โทรสาร 0-2462-9581

ส่งไปรษณีย์มาที่

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)

บริษัท ดูโอ การบัญชีและบริการ จำกัด

สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 553/155 หมู่บ้านสราญสิริ ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ จังหวัดกรุงเทพ